คุณขวัญตา อารี ผู้หญิงผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่ไม่หยุดนิ่งของ F Clinic

ในยุคที่ใครๆ ก็อยากเป็นคนเก่ง ได้รับการยอมรับ และประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน OK! มีผู้หญิงเก่งหนึ่งคนที่อยากให้ทุกคนได้เข้ามาทำความรู้จัก และเข้าใจถึงแนวคิดของการใช้ชีวิต รวมถึงแนวคิดในการทำงาน เธอคือ คุณขวัญตา อารี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอฟ ฟารีดา อารี บิวตี้ คลีนิค หรือ F Clinic สถานเสริมความงามแบบครบวงจร ที่วันนี้ไม่ได้หยุดแค่อาณาจักรธุรกิจความงามเท่านั้น แต่ยังก้าวเข้าสู่ธุรกิจด้านสปาแบบครบวงจรอีกด้วย

แนวคิดในการพัฒนาองค์กรตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน

ตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจทำธุรกิจเราก็มีแนวคิดเรื่องของการทำงานและบริหารอย่างชัดเจนมาตลอด อย่างแรกคือเรื่องของผลลัพธ์รวมถึงความซื่อสัตย์ เราเป็นเจ้าของแบรนด์ที่พูดกับลูกค้าถึงผลลัพธ์อย่างจิงใจมาตลอดถ้าทำแล้วได้ผลแค่ไหนเราก็จะบอกลูกค้าแบบนั้น เพราะความคาดหวังและความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกันเราจะให้ข้อมูลแบบตรงไปตรงมาซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเองว่าอยากทำหรือไม่ทำซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นเชื่อใจและไว้วางใจที่จะเข้ามาใช้บริการและเป็นลูกค้าประจำที่ F Clinic อย่างต่อเนื่อง

ซึ่งบทพิสูจน์อีกอย่างหนึ่งก็คือการเติบโตของธรุกิจที่ใช้ระยะเวลาไม่นานก็สามารถขยายสาขาจนปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 3 สาขา ประกอบกับจุดแข็งของ F Clinic ทั้ง 7 ข้อที่สร้างความโดดเด่น ได้แก่ 1.Beauty Clinic One Stop Service : คลินิกความงามครบวงจรระดับพรีเมี่ยม 2. Excellent & Premium Service : การบริการที่เหนือกว่าอย่างมีระดับและแตกต่าง 3. Professional & Specialist Team : ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ดีที่สุดและมากประสบการณ์ 4. Beauty Innovation Center : ศูนย์รวมนวัตกรรมความงามที่ทันสมัยที่สุด 5. Safety Focus : มุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุดทุกขั้นตอน 6. The Real Sincerity : เน้นความจริงใจที่มีต่อลูกค้าอย่างแท้จริง และ 7. Satisfaction Results : ความพึงพอใจในผลลัพธ์ที่ดีกับลูกค้า

บทบาทของผู้บริหารหญิงที่ทุกคนให้ความเชื่อมั่น

ด้วยบุคลิกภายนอกก็จะดูเป็นคนตรงๆดุๆนะคะ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นสไตล์การทำงานที่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด เป็นคนที่เปิดรับฟังทุกคน ใครมีปัญหาอะไรก็สามารถเข้ามาคุยกันได้ตรงๆ เลย เพื่อจะได้ช่วยกันแก้ไขและหาทางออกที่ดีที่สุด ส่วนตัวก็จะไม่ชอบเอาเปรียบใคร และไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบ เพราะฉะนั้นเวลาทำอะไรก็จะคิดเสมอว่าเรากำลังเอาเปรียบใครหรือเปล่า คือเป็นคนที่ค่อนข้างคิดเยอะ คิดละเอียด คิดถึงความรู้สึกคนอื่น ถึงแม้จะดูภายนอกว่าเป็นคนดุๆ ก็ตาม อย่างเวลาที่เราจะสั่งงานอะไรไป เราจะคิดก่อนว่าถ้าเราเป็นคนๆ นั้นเราจะเป็นยังไง ยกตัวอย่าง ถ้าเราไม่ต้องการให้ลูกน้องหยุดในวันหยุด เราก็จะคิดก่อนว่าถ้าเป็นเราเองจะทำได้มั้ย จะรู้สึกยังไง เมื่อคิดแบบนี้แล้ว การบริหารคน หรือการทำงานก็จะเป็นในลักษณะที่เราเข้าใจซึ่งกันและกัน หลายคนมักจะพูดว่าเราต้องทำงานหนักถึงจะประสบความสำเร็จ แต่จริงๆ แล้ว
เมื่อไรที่คุณทำงานแล้วคุณมีความสุข คุณจะไม่สึกว่าหนักเลย และความสำเร็จก็จะตามมาเอง

ความท้าทายจากการทำงานกับคนหลายเจเนอเรชั่น

การได้ทำงานกับคนหลายๆ แบบ หลายๆ เจเนอเรชั่นเป็นเรื่องสนุกนะคะ ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่เคยมองว่าเป็นปัญหา เพราะมองว่าถ้าเราเข้าใจคนทุกคนก่อนมองว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการทำงานหรือเรื่องการใช้ชีวิตอื่นๆ ก็ตาม ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราอยู่กันคนละเจเนอเรชั่น แต่เป็นเรื่องของทัศนคติความคิดที่ไม่ตรงกันมากกว่า แต่ถ้าเรามีการคุยกัน ปรับจูนให้เข้าใจกัน การทำงานหรือใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมก็ไม่ใช่เรื่องยาก

สำหรับการทำงานที่ F Clinic เราอยู่กันแบบครอบครัว ดูแลกันเป็นครอบครัว เอาใจใส่กันอย่างที่บอกไปแล้วในตอนต้น เพราะเป้าหมายของเราคือเราอยากให้องค์กรเป็นที่รักของทุกคน ไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรที่ดีอันดับหนึ่ง

การศัลยกรรมคือการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ในมุมมองส่วนตัวแล้วการศัลยกรรมที่เปรียบเสมือนการรักษาซึ่งแต่ละคนมีจุดบกพร่องที่ไม่เหมือนกัน การที่ได้ช่วยเหลือคนที่มีปัญหาไม่ว่าจะปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญุ่ให้มีความมั่นใจและสวยขึ้นก็ทำให้เรามีความสุข ถ้ามองกลับกันเป็นเราที่ได้รับการักษาหรือการศัลยกรรมแล้วเราสวยขึ้นดูดีขึ้น ก็มีความสุขขึ้น ซึ่งที่นี่เราเริ่มต้นด้วยความรู้สึกที่อยากจะดูแลซึ่งกันและกัน และอันนี้คือมุมมองของ F Clinic เลยจริงๆ ใครมีปัญหาเข้ามาปรึกษาได้ ซึ่งถ้าเราช่วยได้ แก้ตรงนั้นนิด แก้ตรงนั้นหน่อย ที่นี่ก็พร้อมที่จะช่วยดูแลทุกคน โดยในแต่ละเคสที่มาทำก็ตั้งใจดูแลเป็นอย่างดี เพื่อให้แต่ละเคสนั้นออกมาดีที่สุด

ศัลยกรรมที่ไทย หรือศัลยกรรมที่เกาหลี

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าการศัลยกรรมที่ไทยนั้นดีกว่าและหมอชาวไทยเองก็เก่งเลยทีเดียว ถ้าไปทำที่ต่างประเทศไหนจะต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัยเรื่องภาษาเรื่องที่ต้องไปต่างถิ่นไม่คุ้นเคย ไหนจะการเดินทางอีก อารการกินก็มีส่วน ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ทำให้หลายๆ คนกังวล แต่ถ้าที่ประเทศไทยเรื่องปัญหาเหล่านั้นก็ตัดออกไปได้หมด และแน่นอนว่าหมอไทยจะรู้สรีระร่างกายของคนไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การศัลยกรรมที่เกาหลีเอง ทางนั้นมักไม่ค่อยกังวลในเรื่องของความเจ็บปวดหลังทำ ซึ่งถ้าเป็นที่ F Clinic ก็จะดูแลในเรื่องของผล และความเจ็บปวดของลูกค้าอยู่เสมอ

มากกว่าความงามที่ครบวงจร คือความสำเร็จแบบครบวงจร

ทุกคนรู้จักเราดีในฐานะ ผู้บริหาร F Clinic ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสร้างสรรค์รูปร่าง การปั้นหุ่นให้ออกมาดูดี ด้วยการให้บริการศัลยกรรมความงาม ทั้งการเสริมหน้าอก, ดูดไขมัน , สร้าง Sexy line หรือ สร้างกล้ามท้อง Six Pack , เสริมสะโพกด้วยซิลิโคน, ดูแลรูปร่างกระชับสัดส่วนสลายไขมัน รวมทั้งบริการด้านเลเซอร์ผิวพรรณและความงามแบบครบวงจร  แต่ในอีกพาร์ทหนึ่ง เราก็ได้ต่อยอดธุรกิจไปในส่วนของความสวยงามด้านอื่น ที่เป็น Beauty Salon ดูแลเรื่องผมและเล็บ และการดูแลสุขภาพและความงามในรูปแบบของสปาที่กำลังขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นภายใต้แบรนด์ Grand Massage and Spa ซึ่งได้รวบรวมเอาศาสตร์ความรู้แบบตะวันออก ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค กลิ่นอะโรม่าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และบรรยากาศการตกแต่งที่ผ่อนคลาย ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการมีการแนะนำต่อและกลับมาใช้ซ้ำอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จที่ไม่หยุดแค่วันนี้

เอาจริงๆ แล้ว ไม่ได้มองว่าตอนนี้ตัวเองประสบความสำเร็จแล้วนะ เพราะเรายังมีเป้าหมายของตัวเองที่วางไว้ เป็นเป้าหมายที่ต้องไปต่อ ซึ่งวันนี้ยังไปไม่ถึง แต่ก็ไม่เคยท้อหรือถอดใจ เพราะการจะไปถึงความสำเร็จที่จุดนั้นได้ต้องมีความตั้งใจจริง หลายคนชอบท้อ ไม่กล้า เลยอยากฝากไว้ว่า ถ้าเรามีเป้าหมาย มีความชอบแล้ว เราต้องมีความกล้าด้วย และไม่ท้อด้วย เพราะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้

ที่มา : OK! Magazine Thailand