Coolsculpting เทคนิคสลายไขมันด้วยความเย็น -11 องศา
ปัจจุบัน การออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ถือเป็นวิธีที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเรื่องที่ทำยากอีกเช่นกัน เพราะต้องทำอย่างต่อเนื่องและต้องมีวินัยมากๆ ถึงจะเห็นผล แต่จะมีไขมันสะสมบางจุด ที่ไม่สามารถเบิร์นออกได้ ด้วยการออกกำลังกาย จึงจำเป็นต้องใช้ตัวช่วยเข้ามาจัดการ โดยวิธียอดฮิตเลยคงหนีไม่พ้นการสลายไขมันด้วยความเย็น วิธีนี้ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน
4 วิธี สลายไขมันที่เห็นผล
1. ดูดไขมัน
การดูดไขมัน หรือที่หลายๆคนเรียกติดปากกันว่า Vaser เป็นวิธีการที่สามารถสลายไขมันได้หลายบริเวณ แขน ขา หน้าท้อง สะโพก หรือแม้กระทั่งเหนียง ที่เห็นผลหลังทำชัดเจน แต่การดูดไขมันมีขั้นตอนในการทำเยอะ ใช้เวลาในการพักฟื้น และดูแลตัวเองสักระยะ จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่รีบร้อนในการเห็นผล
2. การฉีดสลายไขมัน
เป็นวิธีที่นิยมอีกหนึ่งวิธี ที่สามารถทำได้ในระยะเวลารวดเร็ว แต่จำเป็นต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลดี การใช้ตัวยาเข้าไปสลายไขมัน สามารถทำได้ทุกบริเวณเช่นกัน นิยมทำบริเวณใบหน้าเหนียง และต้นแขน ต้นขา และเมื่อตัวยาหมดฤทธิไขมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นผู้ที่ฉีดสลายไขมันจึงต้องเข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่อง
3. การนวดสลายไขมันด้วยคลื่นพลังงาน
การนวดสลายไขมัน มีหลากหลายนวัตกรรม แต่ส่วนมากจะเป็นคลื่นพลังงาน RF (Redio Frequency) จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เข้าไปทำปฏิกริยากับไขมันส่วนเกิน เกิดการสลายตัวของไขมัน และถูกขับออกมาจากร่างการในลักษณะของเหลวต่างๆ แต่วิธีนี้จะใช้เวลาในการรักษานาน และมีโอกาสที่จะทำให้ไขมันกลับมาสะสมอีกครั้งได้ง่าย
4. กำจัดไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น (Coolsculpting)
การสามารถสลายไขมันด้วยความเย็น เห็นผล และนิ่มนวลกว่านวัตกรรมแบบเดิมมาก ไขมันมีโอกาสกลับมาสะสมน้อย ซึ่งวิธีนี้เรียกกันว่าการทำ Coolscupting
Coolsculpting คือการ สลายไขมันด้วยความเย็น โดยใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า ZELTIQ ซึ่งเป็นการนำความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง ลบ 5 องศา กระจายลงไปใต้ชั้นผิวหนังเข้าสู่ชั้นไขมัน โดยกระบวนการแบบ non-invasive ไม่มีการผ่าตัด หรือฉีดสารใดๆ เข้าสู่ร่างกาย
ความเย็นติดลบ -10 องศา ถึง -13 องศา ส่งผลต่อการสลายไขมันอย่างไร
(Applicators) หรือหัวเครื่องมือแต่ละตัว จะทำการปล่อยความเย็นลงลึกสู่ผิว ด้วยอุณหภูมิระดับนี้ส่งผลให้ไขมันบริเวณนั้นเกิดการแข็งตัว และเกาะกลุ่มกันหนาแน่นขึ้น (คล้ายกับอาหารที่มีไขมันแล้วแช่เย็นไว้) และเมื่อไขมันได้รับความเย็นถึงระดับ -10 องศา ถึง -13 องศา จะทำให้เซลล์ไขมันตายไป แตกตัวกลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก และถูกขับออกจากร่างกายของเราในเวลาต่อมา
Coolsculpting สลายไขมันบริเวณใดได้บ้าง
Coolsculpting มีหัวดูด (Vacuum) หลายตัว ซึ่งแต่ละตัวแยกตามบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งมีทั้งหมด 5 บริเวณด้วยกัน
- ต้นแขน
- หน้าท้อง
- ต้นขา
- สะโพก
- เอว
ก่อนทำ coolsculpting มีไขมันสะสม / หลังทำ coolsculpting ไขมันถูกกำจัด ของ คลินิกสลายไขมันด้วยความเย็น
4 จุดเด่นของ Coolsculpting
1. ไม่มีการผ่าตัด จึงไม่ต้องวางยาสลบ หรือพักฟื้น
2. กำจัดไขมันได้ดีกว่าวิธีนวดด้วยคลื่นความร้อน ไม่ใช่ลดขนาดไขมัน แต่กำจัดเซลล์ไขมันโดยตรง
3. เซลล์ไขมันมีโอกาสกลับมาน้อยกว่าวิธีอื่นๆในปัจจุบัน
3 เหตุผลที่ต้องทำ Coolsculpting ที่ F Clinic
1. เอฟคลินิกสลายไขมันด้วยความเย็นมีเครื่องให้บริการ 2 เครื่องพร้อมกัน สามารถทำการสลายไขมันได้หลายจุด ไปพร้อมๆกัน ไม่ต้องเสียเวลานาน (1 จุดใช้เวลา 40-60 นาที)
2. ให้บริการด้วยแพทย์เฉพาะทางตลอดการรักษา
3. แพทย์จะคอยประเมินและให้คำปรึกษาทั้งก่อนและหลังการรักษา
ใครเหมาะกับ Coolsculpting
1. ผู้ที่สลายไขมันด้วยวิธี Carboxy แล้วไม่เห็นผล
2. ผู้ที่ทำการฉีดสลายไขมันแล้วแต่ยังเห็นผลไม่ชัดเจน
3. ผู้ที่มีไขมันสะสม บริเวณที่ยากต่อการเบิร์นออก เช่นสะโพก ต้นขาด้านใน
ขั้นตอนการรักษา
ความรู้สึกแรกเหมือนท้องโดนดูดเข้าไป แต่พอผ่านไปสักระยะเริ่มชินและผ่อนคลายมากขึ้น นั่งเล่นโทรศัพท์ อัพเดทข่าว และแชทคุยกับเพื่อนเพลินจนทำเสร็จเลยค่ะ ทำ Coolsculpting ที่ F clinic คลินิกสลายไขมันด้วยความเย็น ดีตรงที่มี 2 เครื่อง ไม่ต้องใช้เวลารอนาน สามารถทำพร้อมกันได้เลย พอทำเสร็จแล้วดึงออก มองดูแดงมาก ลองจับดูตรงบริเวณที่ทำ มันเย็นมากก แอบคิดในใจ นี่คือการกำจัดไขมันด้วยความเย็นจริงๆ และก็จะมีคนมานวดตรงบริเวณที่ทำให้ ผ่านไปประมาณ 5 – 10 นาที รอยแดงก็ค่อยๆ จางลง หลังจากผ่านไปหลังทำประมาณ 1 เดือน มองเห็นได้เลยว่าตรงจุดที่ทำมันยุบลงไปมาก
*รีวิวนี้ได้รับการยินยอมให้เผยแพร่จากผู้เข้ารับบริการ
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจ
*ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย