โปรแกรมสลายไขมันเพื่อหน้าเรียว
เทคนิคการผลักวิตามินเข้าสู่ชั้นไขมัน เพื่อประโยชน์ในการลดกระชับสัดส่วนให้ได้รูปตามต้องการ เป็นวิธีการลดไขมันและเซลลูไลท์เฉพาะที่โดยไม่ต้องผ่าตัดนั่นเอง
หลักการของโปรแกรมสลายไขมันคือ การฉีดสาร Phosphatidylcholine ที่สกัดจากถั่วเหลือง วิตามิน ไข่แดง และแร่ธาตุต่างๆ ลงไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีการสะสมของไขมัน สารเหล่านี้จะเข้าไปทำหน้าที่สลายไขมันตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ผนังไขมันแตกตัวออกแล้วจับตัวกันเป็นก้อนเล็กๆ จากนั้นสลายออกเป็นไขมันเหลวและถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ เป็นการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและระบบต่อมน้ำเหลือง จึงทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบแข็งแรงและกระชับขึ้น โดยปริมาณที่ฉีดขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการ เช่น อาจจะใช้ 0.2-0.5 cc. ห่างกันทุก 1-2 ตารางเซนติเมตร โดยฉีดลึกเข้าไปในชั้นไขมันตั้งแต่ 0.1-12 มิลลิเมตร
นิยมฉีด โปรแกรมสลายไขมัน ที่บริเวณใดบ้าง
1. ลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก
2. ลดไขมันที่คาง (เหนียง)
3. ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา
4. ลดไขมันหน้าท้อง
5. ลดไขมันที่จมูก (บาน) ทำให้เล็กลง
6. ลดไขมันที่หนังตาบน ส่งผลให้ตาหย่อนคล้อย
7. ลดไขมันที่น่อง
ขั้นตอนการทำโปรแกรมสลายไขมัน
แพทย์ผสมยาและฉีดเข้าไปบริเวณที่จะสลายไขมัน ในปริมาณสารที่ฉีด 0.2-0.5 cc. ฉีดลึกประมาณ 5-10 มิลลิเมตร โดยแต่ละจุดห่างกันอย่างน้อย 2 เซนติเมตร และฉีดซ้ำทุกๆ 5-7 วัน หลังจากฉีดแล้ว ไขมันจะเริ่มหดตัวหรือลดจำนวนเซลล์ไขมันลง เมื่อทำจนครบคอร์สจะรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ที่ไม่ควรทำโปรแกรมสลายไขมัน
1. สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
2. มีประวัติเป็นโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติ เช่น เส้นเลือดสมองตีบหรืออุดตัน โรคมะเร็ง
3. ความดันโลหิตต่ำ
4. เป็นโรคหัวใจ
5. เป็นโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
6. เป็นโรคติดเชื้อหรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมสลายไขมัน
- พยายามดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร เพราะไขมันเหลวที่โดนสลาย จะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการดื่มน้ำมากๆ จะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกจากร่างกายได้มากขึ้น
- อาจมีรอยเขียวช้ำบริเวณที่ฉีดสลายไขมันบ้างหากโดนเส้นเลือดฝอยเล็กๆ จึงควรหลีกเลี่ยงการนวดตัว อบซาวด์น่า และการทำทรีทเม้นท์ใดๆ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดการฟกช้ำให้น้อยลง
- อาจมีอาการบวมน้ำยาเป็นเวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง เมื่อหายแล้วจะไม่มีรอยใดๆ ผิวหนังจะยุบเอง ไม่เป็นคลื่น ผิวไม่เป็นรอยบุ๋ม งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- ควรออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็ว โยคะ หรือแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ ช่วยรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของไขมันใหม่
- การทำโปรแกรมสลายไขมันจะไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร เพราะฉะนั้น คนไข้ควรหลีกเลี่ยงของมัน ของทอด บุฟเฟต์ แต่ให้ทานผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารประเภทต้มหรือนึ่งให้มากขึ้น และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไขมันส่วนเกินจะได้ไม่กลับมาสะสมอีก
*รีวิวนี้ได้รับการยินยอมให้เผยแพร่จากผู้เข้ารับบริการ
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจ
*ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย