การเสริมจมูก แบบโอเพ่น (Open Technique)
การเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบเปิด หรือเสริมจมูก แบบโอเพ่น นั้น เป็นการเปิดแผลใต้ฐานจมูก ศัลยแพทย์จะทำการกรีดผ่าจมูกเป็นแนวดิ่ง จนเห็นแกนจมูก แยกเนื้อและผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูก ศัลยแพทย์จะเห็นโครงสร้างของจมูกได้ชัดเจน สามารถปรับแต่ง แก้ไขได้มากกว่าการผ่าตัดแบบปิด (Close Rhinoplasty) การผ่าตัดแบบเปิด สามารถแก้ไขกรณีจมูกสั้น (โดยการเสริมซิลิโคนร่วมกับการนำกระดูกอ่อนในจมูก/กระดูกอ่อนหลังใบหูมาเสริม เพื่อให้จมูกยาวขึ้น ป้องกันการทะลุและเสริมปลายหยดน้ำ) กรณีจมูกคดทำให้ตรงได้ (โดยการตัดแต่งโครงจมูกที่คดให้ตรง) และจมูกใหญ่ทำให้เล็กเรียวได้ (โดยการตัดแต่งเนื้อด้านในจมูก) โดยทั่วไปแล้วจะมีการผ่าตัดจมูกร่วมกับการนำกระดูกอ่อนจากที่ต่างๆ เช่น กระดูกอ่อนหลังใบหูมาใช้ร่วมด้วยค่ะ
รูปแบบจมูกที่จำเป็นต้องใช้เทคนิคเสริมจมูก แบบโอเพ่น มีลักษณะแบบอย่างไรบ้าง?
1. เนื้อจมูกน้อยและจมูกสั้น ( บางคนอาจสับสนอยู่บ้าง ว่าเนื้อจมูกน้อยนี่เป็นยังไง หรือจมูกสั้นคือสั้นแบบไหน แนะนำว่าส่งรูปมาให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์จะแม่นยำสุดค่ะ )
2.กระดูกคดเบี้ยวเสียรูป
3.ผ่าตัดเสริมจมูกมาก่อนแล้วเกิดความผิดพลาดอยากแก้จมูก
4..เสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์มาก่อน แล้วเกิดการเสียรูป ต้องการแก้ไขต้องขูดฟิลเลอร์ออก
5.จมูกมีฮัมพ์ คือ กระดูกที่นูนขึ้นมาบริเวณแนวกระดูก มีลักษณะนูนคล้ายหลังอูฐ
ถ้าใครเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งใน 4 ลักษณะด้านบน แนะนำเป็นการผ่าตัดแบบเปิด
ข้อดี
- ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดแก้ไขปัญหาจมูกได้ดีกว่า สมบูรณ์กว่า เพราะสามารถเห็นถึงโครงสร้างภายในจมูกได้ดีกว่า
- ศัลยแพทย์สามารถตกแต่งปลายจมูกโดยการใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อสังเคราะห์ เพื่อให้จมูกสวยเนียนเป็นธรรมชาติ ป้องกันการทะลุในอนาคต
- มีโอกาสที่จมูกจะเอียงหรือเบี้ยวน้อยกว่า
ข้อเสีย
- มีแผลเป็นที่มองเห็นได้ ถ้าเงยหน้าขึ้น
- ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าเสริมจมูกปกติ เพราะการผ่าตัดทำได้ยากและมีรายละเอียดมากกว่า
- การผ่าตัดในบางครั้งต้องใช้การดมยาสลบด้วย
- ราคาสูงกว่าการเสริมจมูกแบบปิด
6 เหตุผลที่ต้องเสริมจมูก แบบโอเพ่นที่ F Clinic
1. เสริมจมูกโดยแพทย์ผู้เฉพาะทางด้านศัลยกรรม โดยแพทย์และเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
2. ใช้ซิลิโคนชนิดที่ดี “นิ่มบิดได้” อยู่ได้นาน
3. ศัลยแพทย์จะเหลาซิลิโคนเอง ให้ได้รูปทรงที่เข้ากับใบหน้า
4. อาการบวมเขียวช้ำ หายเร็วใน 1 – 3 วัน
5. รู้สึกเจ็บน้อยเนื่องจากเราใช้ยาชาชนิดพิเศษ
6. ใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ไม่ทำให้มีแผลเป็น ทั้งแบบปิดและแบบเปิด
เตรียมตัวก่อนเสริมจมูก แบบโอเพ่นที่ F Clinic
1. งดสูบบุหรี่ ,งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
2. งดยาแก้ปวด งดลดกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนผ่าตัด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) หรือ ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด
3. งดวิตามิน น้ำมันตับปลา อาหารเสริมต่างๆ ทุกชนิด เนื่องจากอาหารเสริมเหล่านี้ ทำให้เกิดอาการเลือดหยุดไหลช้า ส่งผลให้หมอผ่าตัดยากและจากหลังผ่าจะมีรอยบวมช้ำเขียว
4. งดของแสลงจำพวกของดอง น้ำอัดลม รวมถึงอาหารทะเล อย่างน้อย 1 สัปดาห์
5. ตรวจสุขภาพให้ละเอียดก่อนหรือหากเรารู้ตัวว่ามีโรคประจำตัว มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคความดัน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคต่างๆ ควรปรึกษาศัลยแพทย์ให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงหลังการผ่าตัด เช่น แผลติดเชื้อมากกว่าคนปกติ
การเตรียมตัวในวันผ่าตัดเสริมจมูก
1. งดอาหารและน้ำ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง ในกรณีที่ต้องดมยาสลบ
2. ทานอาหารเบาๆ ก่อนเวลาผ่าตัดช่วง 4-6 ชั่วโมง ในกรณีที่ไม่ดมยาสลบ แต่ใช้วิธีการฉีดยาชา
3. งดแต่งหน้า ล้างหน้า และแคะจมูกให้สะอาด
5 อย่างที่ควรเตรียมไว้ใช้หลังจากเสริมจมูก
1. หมอนรองคอ
2. ผ้าเย็น หรือ ผ้าขนหนู/แผ่นทำความสะอาด สำหรับเช็ดหน้า
3. คอตตอนบัด หรือ ไม้พันสำลี
4. เสื้อที่เป็นแบบติดกระดุม
5. น้ำเกลือล้างแผล
10 ข้อห้ามหลังจากเสริมจมูก
1. หลีกเลี่ยงการโดนแผล ห้ามจับ แกะ แคะ แงะ หรือกระแทก เพื่อให้อาการหลังผ่าตัดเสริมจมูกกลับสู่สภาพปกติให้เร็วที่สุด
2. ใส่เสื้อมีกระดุมหน้า ที่สามารถใส่และถอดได้ง่าย เพื่อลดการสัมผัสของจมูกในการเปลี่ยนเสื้อ
3. ประคบเย็นติดต่อกันหลังจากผ่าตัดเสริมจมูกต่อเนื่อง 3 วัน จากนั้นประคบอุ่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
4. งดสูบบุหรี่ ,งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด
5. ทานยาตามที่แพทย์จัดให้ตรงตามเวลาอย่างเคร่งคัดและทานต่อเนื่องจนกว่ายาจะหมด
6. งดแต่งหน้า
7. ห้ามกินอาหารจำพวกของหมักดอง เนื่องจากจะทำให้แผลหายช้า
8. งดออกกำลังกายประเภทที่มีความเสี่ยงต่อการปะทะหรือการกระแทก
9. หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองและควันเยอะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักๆ ที่จะทำให้เกิดการแพ้อากาศ รวมถึงอาการไอ จาม และสั่งน้ำมูก
10. งดกิจกรรมเสริมความงามเกี่ยวกับใบหน้า เช่น กดสิว, ทำทรีทเม้นท์ ยิงเลเซอร์ให้ผิวหน้า การใช้มือกด นวด การใช้เครื่องมือต่าง ๆ บนใบหน้าหรือใกล้เคียงกับบริเวณจมูก ในขณะที่แผลยังไม่หายดี อาจทำให้เกิดการอักเสบและเป็นอันตรายต่อตัวคุณเองได้