fbpx

ลงทะเบียนรับสิทธิก่อนใคร






    Filling Substance เติมเต็ม ลดร่องลึก

    • “Filling Substance” หรือ Hyaluronic Acid คือ สารเติมเต็มที่มีการพัฒนามายาวนาน โดยแบ่งออกเป็นช่วงๆ ดังนี้
    • ช่วงแรก (ค.ศ. 1890) จะเริ่มมีการใช้ไขมันคนมาเป็นสารเติมเต็ม
    • ช่วงที่สอง (ค.ศ. 1900) จะใช้ “พาราฟินเหลว” หรือ “สารตระกูลพาราฟิน” มาเป็นสารเติมเต็ม
    • ช่วงที่สาม (ค.ศ. 1940) ใช้ซิลิโคนเหลว ซึ่งถือได้ว่าช่วยแก้ปัญหาได้ดีในเรื่องหน้ายุบ เติมหน้าในส่วนที่บกพร่องให้เต็ม
    • ช่วงที่สี่ (ค.ศ. 1981) มีการใช้คอลลาเจนจากวัว เป็นคอลลาเจนที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจาก U.S. FDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา)
    • ช่วงที่ห้า (ค.ศ. 2007) ใช้กรดไฮยาลูโรนิก ที่มีคุณสมบัติในการดูดของเหลวเข้ามาในบริเวณที่ต้องการเติมเต็มได้ ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจาก U.S. FDA
    • ปัจจุบันมีการพัฒนามาใช้เอชเอฟิลเลอร์ (HA Filler) หรือ Hyaluronic acid” ซึ่งเป็นสารที่มีความคงตัวสูงและไม่ได้สกัดมาจากสัตว์ ไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ ย่อยสลายเองได้ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

    ขั้นตอนการทำงาน Filling Substance

    เมื่อ Filling Substance (สารเติมเต็ม) หรือ Hyaluronic acid เข้าสู่ผิวหนัง จะมีคุณสมบัติในการรวมตัวกับน้ำและอุ้มน้ำนั้นไว้ ทำให้ผิวหนังที่เป็นริ้วรอยหรือร่องลึกนั้นตื้นขึ้นและเลือนหายไป  ส่งผลให้ผิวของคุณเรียบเนียนแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น สารไฮยาลูโรนิกแอซิด สามารถอยู่ได้นานมากถึง 8 – 18 เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของเอชเอฟิลเลอร์หรือ Hyaluronic acid

    ด้วยเหตุนี้จึงสามารถฉีดเพื่อความงามได้ตั้งแต่อายุ 18 ขึ้นไป ความจริงแล้วเมื่อ Filling Substance เข้าสู่ร่างกาย เอนไซม์ไฮยาเลส (Hyalase enzyme) ในชั้นผิวจะทำหน้าที่ย่อยสลายได้หมดภายใน 2 – 3 วัน ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีกระบวนการหรือ Hyaluronic acid ให้มีความเสถียรมากขึ้น จึงทำให้มีอายุอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี

    การที่ Filling Substance สามารถสลายไปเองได้ถือเป็นข้อดี เพราะใบหน้าของคนเราจะเปลี่ยนไปทุกปีตามอายุที่มากขึ้น ถ้า Filling Substance อยู่ในผิวหนังได้ 1 – 2 ปี แล้วสลาย เราสามารถเติมลงไปใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้

    การฉีด Filling Substance ในสมัยก่อนค่อนข้างน่ากลัว เพราะยังไม่มีนวัตกรรมดีดี ผู้คนจึงพากันไปนิยมซิลิโคนเหลวซึ่งซิลิโคนเหลวจะไม่มีทางสลายไปเองได้ แม้ว่าในตอนแรกจะดูสวยเป๊ะ แต่พอเวลาผ่านไปอาจจะมีปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การหย่อนคล้อย เป็นก้อนแข็ง บวม หรือ อักเสบ เมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ วิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาได้ คือ การผ่าตัดเพื่อเลาะซิลิโคนออกจากชั้นเนื้อเยื้อผิวหนัง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ใหญ่มาก

    เมื่อ Filling Substance เข้าสู่บริเวณต่างๆบนใบหน้าก็จะไปช่วยเติมเต็มในจุดนั้นๆ จากนั้นแพทย์จะทำการปรับรูปทรงสัดส่วนดังกล่าวให้สวยงามเหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้ พักรอดูผลประมาณ 15 นาที ก็สามารถกลับบ้านได้

    ในช่วง 3 – 5 ปีที่ผ่านมา เทรนด์การเสริมความงามด้วย Filling Substance ของสาวไทยมาแรงมาก สวนกับความนิยมในการผ่าตัดศัลยกรรมที่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ก็เพราะ Filling Substance ช่วยเติมเต็มรูปหน้าให้ดูสวยเป๊ะขึ้นได้ โดยไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนผ่าตัด อีกทั้งยังรวดเร็วและดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

    ยกกระชับ 8 จุด ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์

    ใบหน้าของเราประกอบไปด้วยไขมันชิ้นเล็กๆ เรียกว่า แฟตคอมพาร์ตเมนต์ (fat compartment) ซึ่งตอนที่เรายังเด็กไขมันพวกนี้จะชิดกันทำให้ผิวหน้ากระชับเต่งตึง แบบที่คนชอบเรียกกันว่า “ผิวเบบี้แฟต” แต่พออายุมากขึ้นไขมันพวกนี้จะหดลงและมีปริมาณน้อยลง ทำให้มีช่องว่างไขมันแต่ละชิ้น ใบหน้าของเราจึงมีความหย่อนคล้อยตรง 8 จุดที่เป็นรอยต่อของแฟตคอมพาร์ตเมนต์นั่นเอง

    8 จุดที่เป็นรอยต่อของแฟตคอมพาร์ตเมนต์

    เดิมทีการฉีด Filling Substance จะฉีดกันตื้นๆ แค่ร่องแก้ม แม้ทำให้ผิวดูเรียบเนียนเต่งตึงขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีที่สุด เพราะยังไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของคนในยุคปัจจุบัน การฉีดสารเติมเต็มให้ลึกเข้าไปถึงชั้นไขมันเพิ่มเติมเต็มไขมันที่มันหายไปใน 8 จุดที่เป็นรอยต่อของแฟตคอมพาร์ตเมนต์ เรียกว่า แก้ปัญหาลึกถึงต้นตอ เพราะเมื่อไขมันแต่ละชิ้นชิดกันขึ้น ผิวหน้าก็จะค่อยๆ ยกตัวขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ 

    8 จุดที่เป็นแฟตคอมพาร์ตเมนต์ คือตรงไหนบ้าง
    1. โหนกแก้ม เมื่อเรามีอายุมากขึ้นโหนกแก้มจะตกลง การรักษาด้วย Filling Substance ในจุดนี้จะช่วยยกโหนกแก้มให้ดูเต็มและเต่งตึงขึ้น
    2. แก้มด้านบน เพื่อยกกระชับแก้มไม่ให้หย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก
    3. ร่องน้ำตาลึก ผู้ที่มีร่องน้ำตาลึกจะดูอิดโรย อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ดังนั้นการรักษาด้วย Filling Substance จะทำให้ใบหน้าดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น
    4. ร่องแก้ม เพื่อลดร่องแก้มลึก เมื่อรักษา 3 จุดแรกที่กล่าวมา บริเวณร่องแก้มจะตื้นขึ้นโดยอัตโนมัติ ทำให้ใช้ Filling Substance กับจุดนี้น้อยลง
    5. มุมปากหรือร่องน้ำหมาก การรักษาด้วย Filling Substance ตำแหน่งนี้จะช่วยยกมุมปากมากขึ้น ทำให้ดูเด็กลงและสดใสขึ้น
    6. ข้างคาง เพื่อยกกระชับแก้มที่ลู่และตอบลง
    7. ด้านหน้าของใบหู เพื่อยกกรอบหน้าให้ดูเรียวมากขึ้น ตรงจุดนี้คนส่วนมากจะกลัวและกังวล ว่าจะทำให้หน้าดูใหญ่ขึ้น เพราะเป็นบริเวณกรอบหน้า แต่จริงๆแล้วการรักษาด้วย Filling Substance ในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ใบหน้าดูได้รูป ดูสมดุลขึ้น ได้ใบหน้าเรียวตามต้องการ
    8. บริเวณแก้ม (ใต้โหนกแก้ม) พออายุมากขึ้นแก้มจะตอบลง ทำให้โหนกแก้มห้อยลง เมื่อทำการรักษาด้วย Filling Substance แก้มก็จะเต็มขึ้น และช่วยยกโหนกแก้มให้สูงขึ้นเล็กน้อยด้วย
    Filling Substance สามารถเติมสวยได้อีก

    นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ FILLING SUBSTANCE เติมสวยในส่วนอื่นๆ ของใบหน้าและร่างกายได้อีก ซึ่งบางส่วนอาจยังนึกไม่ถึงก็ได้

    1. หน้าผาก รักษาด้วย Filling Substance เพื่อช่วยลดริ้วรอยที่เป็นเส้นๆ รอยย่น และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
    2. บริเวณรอบดวงตา เพื่อลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตาและริ้วรอยรอบดวงตา
    3. บริเวณทั่วใบหน้า ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ และทำให้ผิวดูเรียบเนียนอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
    4. รอยหลุมสิว ช่วยให้รอยหลุมสิวดูตื้นขึ้น
    5. บริเวณรอบริมฝีปาก เพื่อช่วยลดเลือนรอยเล็กๆ บริเวณริมฝีปาก
    6. คอและบริเวณเนินอก เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียนและกระชับมากขึ้น ลดปัญหาหน้าตึงแต่คอเหี่ยว ซึ่งสามารถฟ้องอายุที่แท้จริงได้อย่างชัดเจน
    7. หลังมือ เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียนชุ่มชื้น และกระชับมากขึ้น 
    ก่อนรักษาด้วย Filling Substance ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

    ปัจจุบันในเมืองไทยนิยมใช้ Filling Substance เพียงชนิดเดียว (แต่หลายยี่ห้อ) คือ Hyaluronic Acid หรือ เอชเอฟิลเลอร์ เพราะมีความสามารถสลายเองได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติเฉื่อย ไม่ทำให้เกิดการแพ้ มีความคงตัวแม้จะอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน แต่ก็เสื่อมสลายไปได้เอง ไม่เกิดปัญหาสะสมในร่างกาย

    ดังนั้นจึงควรสอบถามข้อมูลจากสถานประกอบการหรือคลินิกก่อนพร้อมทั้งขอดูกล่องหรือขวดบรรจุภัณฑ์เพื่อตรวจสอบ บริษัทที่นำเข้าและจัดจำหน่าย วัน/เดือน/ปี ที่ผลิตประกอบกับราคา ที่สำคัญต้องดูความน่าเชื่อถือของสถานประกอบการหรือคลินิกและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำหัตถการด้วย

    เดี๋ยวนี้มีผู้ชายมาฉีด Filling Substanceเพิ่มขึ้น แต่การฉีดในผู้ชายนั้นแพทย์ต้องดูความเหมาะสมด้วย คือควรจะคงโครงหน้าแบบผู้ชายเอาไว้ ไม่ใช่ฉีดแล้วดูหน้าหวานเป็นผู้หญิง

    ผู้ชายสามารถฉีด Filling Substance ได้ไหม

    Filling Substance เป็นสารสกัดจากธรรมชาติและสลายตัวไปได้หมดจด และหากรักษาด้วย Filling Substance แล้วไม่ชอบผลลัพธ์ สามารถรักษาด้วยยาสลาย Filling Substance ได้

    Filling Substance เป็นสารเคมีแปลกปลอมที่ไม่ควรฉีดเข้าร่างกายหรือไม่

    มีคนไข้บางคนอยากได้จมูกหรือคางแบบดาราที่ตัวเองชอบ และมักแจ้งคุณหมอว่าอยากได้แบบนี้ แต่คุณหมอจะแนะนำและอธิบายให้คุณไข้เข้าใจว่ารูปหน้าของคนไข้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นคุณหมอจะรักษาด้วย Filling Substance ปรับจมูกรูปคางให้เข้ากับรูปหน้าของไข้เพื่อให้สมดุลและสวยงามที่สุด

    สามารถเติม Filling Substance ที่คางหรือดั้งให้สวยเหมือนดาราที่เป๊ะๆได้ไหม
    การดูแลตัวเอง ก่อน – หลัง รักษาด้วย Filling Substance

    ก่อนรักษาด้วย Filling Substance

    ก่อนรักษาด้วย Filling Substance 1 สัปดาห์ ควรหยุดกินวิตามินอี น้ำมันปลา คอลลาเจน สารสกัดแป๊ะก๊วย (กิงโกะ) ยาลดการแข็งตัวของเลือด และยาแก้ปวดบางชนิด เพราะอาหารเสริมและยาเหล่านี้ทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก อาจทำให้มีรอยเขียวช้ำจากอาการเลือดออกใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น นอกจากนี้หากมีโรคประจำตัว เคยมีประวัติแพ้ยาหรืออาหารเสริมใดๆ กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร ก็ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน

    หลังรักษาด้วย Filling Substance

    • หลังรักษาเสร็จไม่ควรจับ ลูกคลำ หรือนวดเฟ้นบริเวณที่ทำการรักษา เพราจะมีผลต่อการกระจายตัวของยา
    • หลังรักษาด้วย Filling Substance 24 ชม. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว อาจจะทำให้หายช้าได้
    • หลังรักษา 1 วัน สามารถแต่งหน้า ทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
    • หลังรักษา 2 – 3 วัน บางคนอาจมีปัญหาปวดหัว แต่อาการนี้จะหายไปเอง
    • หลังรักษา 1 สัปดาห์ สามารถทำทรีตเมนต์ได้ตามปกติ ยกเว้นการนวดหน้าแรงๆ การอบไอน้ำ อบซาวน่า ยิงเลเซอร์ ทำ RF หรือไอออนโตที่หน้า ควรทำหลังจากรักษาครบ 2 สัปดาห์ไปแล้ว เพราะการได้รับความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบได้

    การดูแลระยะยาว

    หลังรักษาด้วย Filling Substance ไม่ควรไปอยู่ในที่ร้อนๆ เช่น เล่นโยคะร้อน เข้าห้องซาวน่า หรืออบสมุนไพร เพราะจะทำให้ Filling Substance ละลายเร็วขึ้น หลังการรักษาสามารถรับประทานอาหาร ออกกำลังกายและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผล เมื่อพบความผิดปกติใดเกิดขึ้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อที่จะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง

    ผลลัพธ์ที่ได้อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่บุคค

    *รีวิวนี้ได้รับการยินยอมให้เผยแพร่จากผู้เข้ารับบริการ
    *ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจ
    *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

    ลงทะเบียนรับสิทธิก่อนใคร